ธุรกิจก่อสร้างของไทยนั้นเป็นธุรกิจที่มีอนาคตดี

ธุรกิจก่อสร้างของไทยนั้นเป็นธุรกิจที่มีอนาคตดี

ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จัดเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ เนื่องจากมีมูลค่าสูงที่จะนำเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ตัวอย่างของการก่อสร้างทั้ง บ้าน อาคาร ห้างสรรพสินค้า หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆที่ภาคเอกชนเร่งก่อสร้าง ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
hyy
นอกจากนั้น ธุรกิจก่อสร้างยังเป็นแหล่งระบายงบประมาณ เพื่อเข้ามาอัดฉีดให้กับเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งของรัฐบาล ซึ่งเราจะเห็นได้ตลอดมาว่าเมื่อเกิดปัญหาเรื่องเงินไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลที่ผ่านๆมาก็จะอัดเม็ดเงินผ่านทางโครงการก่อสร้างต่างๆ เช่น การสร้างถนน  ขุดลอกคูคลอง การทำคลองชลประทาน และการก่อสร้างอาคารให้กับหน่วยงานราชการ
ซึ่งโครงสร้างของธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นั้น เรียกได้ว่าเป็นสายป่านที่ยาว เพราะจะมีทั้งธุรกิจคอนกรีต เหล็กเส้น การขนส่ง โกดังเก็บของ การจ้างงานทั้งแรงงานทั่วไป แรงงานฝีมือ ช่างเทคนิคและวิศวกร ซึ่งมีคนที่เกี่ยวข้องอยู่ในธุรกิจนี้เป็นหลายแสนรายและเม็ดเงินกว่าแสนล้านบาทต่อปี
จึงกระจายเม็ดเงินไปสู่คนในหลากหลายกลุ่มตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงเจ้าของธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการแข่งขันที่รุนแรง เพราะส่วนใหญ่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จะมี บริษัทร่วมทุน ทั้งของไทยและต่างประเทศ มาทำการประมูลแข่งขันกัน จึงมีเม็ดเงินไหลเวียนอยู่ในวงการนี้อยู่ตลอดเวลา
แม้ในชีวิตประจำวัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังอยู่ใกล้ตัวเรามาก ดังจะเห็นได้ว่าในระยะสิบปีที่ผ่านมานี้ เกิดมีห้างสำหรับขายอุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งบ้านโดยเฉพาะ ผุดขึ้นอยู่ในเกือบทุกจังหวัดของประเทศ ซึ่งในห้างดังกล่าวนอกจากจะขายอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับการก่อสร้างและตกแต่งบ้านแล้ว ยังมีบริการรับต่อเติม ติดตั้ง ก่อสร้างบ้าน ให้บริการอยู่ด้วย จนเรียกได้ว่าธุรกิจก่อสร้างนั้นอยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ เพียงแต่แค่เรามีเงินงบประมาณเท่านั้นก็เดินเข้าไป บอกความต้องการที่จะต่อเติมหรือก่อสร้างบ้านได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
การก่อสร้างของไทยนั้นเป็นธุรกิจที่มีอนาคตดี โดยเฉพาะภาคเอกชนไทยบางแห่งเริ่มดำเนินธุรกิจในเชิงรุกด้วยการออกไปรับงานในต่างประเทศ  แต่ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างของไทย ไม่มากนักที่สามารถไปรับงานในต่างประเทศได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านการเงิน
เช่น ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ขาดแคลนหลักทรัพย์ค้ำประกัน ปัญหาทางด้านการตลาด เช่น ขาดข้อมูลโครงการก่อสร้าง กฎระเบียบปฏิบัติในแต่ละประเทศ ลู่ทางการตลาดโอกาสการไปแสวงหาตลาดใหม่ๆ และปัญหาด้านศักยภาพของผู้ประกอบการ เช่น ความเสียเปรียบทางด้านภาษา เทคโนโลยี และความน่าเชื่อถือ แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าด้วยศักยภาพด้านฝีมือแรงงานก็จะทำให้ธุรกิจการก่อสร้างของไทยสามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้เช่นกัน